วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2555

"อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง" บุรีรัมย์


อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง








อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง, บุรีรัมย์


             ตั้งอยู่บนเขาพนมรุ้ง บ้านตาเป็ก ตำบลตาเป็ก จากตัวจังหวัดบุรีรัมย์ สามารถเดินทางไปพนมรุ้งได้ 2 เส้นทาง คือ
1. ใช้เส้นทางสายบุรีรัมย์-นางรอง (ทางหลวง 208) ระยะทาง 50 กม. เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงสาย 24 ไป 14 กม. ถึงบ้านตะโก เลี้ยวขวาผ่านบ้านตาเป็กไปพนมรุ้งเป็นระยะทางอีก 12 กม.
2. ใช้เส้นทางสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย ทางหลวงหมายเลข 23 เป็นระยะทาง 44 กม. จากตัวอำเภอ ประโคนชัย มีทางแยกไปพนมรุ้ง ระยะทางอีก 21 กม. (เส้นทางนี้ผ่านทางแยกเข้าปราสาทเมืองต่ำ ด้วย) 

           พนมรุ้งเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย มีอายุการก่อสร้างและใช้เป็นเทวสถาน ต่อเนื่องกันมา หลายสมัย ตั้งแต่ประมาณพุทธศตวรรษที่ 15 ลงมาถึงพุทธศตวรรษที่ 17 จนถึงพุทธ ศตวรรษที่ 18 พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรขอมหันมานับถือศาสนาลัทธิมหายาน เทวสถานแห่งนี้ จึงคงจะได้รับการดัดแปลงเป็นพุทธศาสนาลัทธิมหายานในช่วงนั้น


ที่มา: http://www.thai-tour.com/thai-tour/northeast/buriram/data/place/hpk_phanomrung.htm


"เกาะสมุย" หวัดสุนราษฏร์ธา


เกาะสมุย 







      เกาะสมุย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งใจังหวัดสุราษฏร์ธานี ซึ่งเป็นเกาะทางภาคใต้ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันก็ยังคงมีปริมาณนักท่องเที่ยวจำนวนมากมายได้หลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวที่เกาะแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติก็ให้ความสนใจและรู้จักเกาะสมุยกันเป็นอย่างดี เกาะสมุยเป็นสถานที่ที่ยังคงมีสภาพของธรรมชาติที่สวยงามเอาไว้บนตัวเกาะ ความงดงามของธรรมชาติเหล่านี้มีความโดดเด่นและช่วยในการดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากหลายๆประเทศทั่วทุกมุมโลกได้เข้ามาเที่ยวชมแวะเวียนและเที่ยวชมที่นี่อยู่เป็นประจำ นักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เข้ามาเที่ยวในเกาะสมุยต่างก็อยากที่จะกลับมาท่องเที่ยวในที่แห่งนี้เพื่อสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติที่งดงามบนตัวเกาะ เกาะสมุยยังเป็นเกาะที่มีทุกสิ่งทุกอย่างเพียบพร้อมไม่ว่าจะเป็นการบริการในด้านต่างๆเช่นด้านความบันเทิง ด้านอาหาร รวมไปถึงด้านสุขภาพการอวบนวดให้กับนักท่องเที่ยวและผู้ที่มีถิ่นฐานเดิม และบริการที่สำคัญที่ทำให้สถานที่แห่งนี้โด่งดังขึ้นเรื่อยๆคือการบริการด้านที่พักของผู้ประกอบการที่พักมากมายได้ใส่ใจในคุณภาพเป็นอย่างดีไม่ว่านักท่องเที่ยวจะหลั่งไหลเข้ามามากน้อยเพียงใด หรือแม้แต่จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นในหลายเท่าตัว ทางสถานที่พักทุกๆแห่งยังคงสามารถที่จะรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างมหาศาลอีกด้วย




วันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2555

"เกาะแม่เกาะ" จังหวัดสุราษฎร์ธานี


    ทะเลในหรือทะเลสาบกลางภูเขา อยู่บนเกาะแม่เกาะเป็นปรากฏการทางธรณีวิทยา โดยเกิดจากแอ่งหินปูนที่ยุบตัวทะเลในมีลักษณะเป็นวงรี กว้าง 250 เมตร ยาว 350 เมตร ลึก 7 เมตรมีเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ มีทิวทัศน์สวยงามจากจุดชมวิวจะเห็นทัศนียภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจ ของทะเลในสีเขียวมรกตรวมทั้งเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลเปิด ซึ่งโอบรอบด้วยโขดเขาและแมกไม้ปกคลุม












             ลักษณะการเกิดของทะเลในมีกำเนิดมาจากเขาหินปูนซึ่งสะสมตัว จากการตกตะกอนของสารละลายหินปูนหรือแคลเซียมคาร์บอเนต (CaCo3) ร่วมกับการทับถมของซากสัตว์ ที่อาศัยอยู่ในท้องทะเลตื้น เมื่อประมาณ 260 ล้านปีล่วงมาแล้ว หลังจากที่หินปูนทับถมจนกลายเป็นหินแข็งแล้ว มีการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก ทำให้ชั้นหินปูนเหล่านี้ถูกยกตัวขึ้นกลายเป็นเขาสูง และเมื่อเขาหินปูนถูกน้ำฝน น้ำท่า และน้ำบาดาล ชะละลายเอาเนื้อหินออกไปเรื่อยๆ จะทำให้เกิดลักษณะธรณีสัณฐานแบบคาสต์ ซึ่งเต็มไปด้วยหลุมบ่อ ถ้ำ และทางน้ำใต้ดินขึ้น และเมื่อน้ำละลายเอาหินปูนที่อยู่ข้างใต้หลุมบ่อหรือถ้ำเหล่านั้นออกไปมาก จนหลุมหรือถ้ำมีขนาดใหญ่และผนังถ้ำบางลง ผนังถ้ำส่วนบนจึงได้พังทลายลง ทำให้พื้นดินตอนบนยุบลงกลายเป็นหลุมใหญ่ มีสภาพเป็นหลุมยุบที่ปากหลุมมีลักษณะค่อนข้างกลม และเชื่อว่าการละลายของหินปูนน่าจะเป็นไปอย่างกว้างขวาง หลุมยุบนี้จึงค่อยๆ ลึกลงเรื่อยมา จนทะลุติดต่อถึงทางน้ำข้างล่าง หลังจากนั้น เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกอีกครั้งหนึ่ง ทำให้เขาหินปูนเหล่านี้ จมลงใต้ทะเล เกิดเป็นหมู่เกาะที่น้ำทะเลไหลทะลักเข้าไปภายในโดยช่องทางน้ำใต้ดิน มาสะสมขังตัวอยู่ในหลุมยุบ ทำให้เกิดเป็นทะเลใน ซึ่งมีทิวทัศน์สวยงามตระการตา



ที่มา:http://www.siamfreestyle.com/travel-attraction/suratthani/ta-le-nai-mae-koh-island.html


"น้ำตกแสงจันทร์" อุบลราชธานี

"น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น"อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์



       ธารมรกตแห่งป่าตะวันตก อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์
   “น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น” เป็นน้ำตกหินปูนขนาดใหญ่ มีเอกลักษณ์ตรงที่สายน้ำที่ไหลผ่านลำห้วยแม่ขมิ้น แล้วลดหลั่นไปตามเชิงชั้นหินปูนเกิดเป็นน้ำตกที่สวยงาม 7 ชั้น คล้ายกับน้ำตกเอราวัณ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนคริทร์เพียง 100 เมตร เป็นน้ำตกที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย มีระยะทางรวม 2,270 เมตร มีแมกไม้น้อยใหญ่แซมสลับขึ้นตามแก่งหินและก้อนหินด้านข้าง สร้างความร่มรื่น สวยงาม สบายตา สมฐานะน้ำตกที่สวยที่สุดของไทย น้ำตกแต่ละชั้นมีชื่ออันไพเราะว่า ดงว่าน ม่านขมิ้น วังหน้าผา ฉัตรแก้ว ไหลจนหลง ดงผีเสื้อ และร่มเกล้า สามารถเดินเลาะริมน้ำขึ้นไปชมน้ำตกได้ทุกชั้น โดยน้ำตกชั้นฉัตรแก้วถือว่ามีความงดงามที่สุด




         เขื่อนศรีนครินทร์เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของภาคตะวันตกของ ไทย ครอบคลุมเนื้อที่กว้างขวางถึง 1,532 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าดงดิบทึบรอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ โดยมีสายน้ำแควใหญ่หลากไหลตลอดปี และมีน้ำตกแม่ขมิ้นที่งดงามน่าประทับใจ นอกจากพื้นป่าที่ชอุ่มเขียวแล้ว ความยิ่งใหญ่ของอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนคริทร์ยังเผยออกมาในรูปของน้ำตกที่ สวยงามหลายแห่ง เช่น น้ำตกห้วยขมิ้น น้ำตกผาตาด ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้อุทยานแห่งชาติได้จัดทำเส้น ทางศึกษาธรรมชาติของป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรัง โดยจะผ่านจุดชมทิวทัศน์ของอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ผู้สนใจติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว





ที่มา:http://www.siamfreestyle.com/travel-attraction/kanchanaburi/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%82%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99.html

วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เกาะปันหยี หมู่บ้านกลางทะเล ณ อ่าวพังงา

นี้คือ เกาะปันหยี หมู่บ้านกลางทะเล ณ อ่าวพังงา



ย้อนหลังกลับไปนับร้อยปี บรรพบุรุษของคนปันหยี ซึ่งเป็นครอบครัวชาวชวา จำนวน 3 ครอบครัว อพยพมาจากอินโดนีเซียโดยเรือใบ 3 ลำ เพื่อค้นหาแหล่งทำกินที่ดีกว่าเดิม พวกเขาตกลงกันว่าหากใครพบที่ทำกินก่อน ให้สื่อสัญญาณด้วยการปักธงที่ยอดเขา และในที่สุดครอบครัว "โต๊ะบาบู" ก็พบเกาะหนึ่งก่อนใคร จึงขึ้นไปปักธงไว้ที่ยอดเขา และตั้งชื่อเกาะนั้นว่า "ปันหยี" ที่แปลว่า"ธง"






          พื้นที่ส่วนใหญ่ของ เกาะปันหยี ตั้งอยู่ในทะเลอ่าวพังงา และบริเวณป่าชายเลนอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา มีหมู่บ้านจำนวน 4 หมู่บ้าน คือ บ้านท่าด่าน ตั้งอยู่บริเวณน้ำตื้นในอ่าวพังงา, เกาะปันหยี ตั้งอยู่บริเวณน้ำตื้นในอ่าวพังงา, เกาะไม้ไผ่ ตั้งอยู่บนเกาะและป่าชายเลนอ่าวพังงา และเกาะหมากน้อย ตั้งอยู่บนเกาะในอ่าวพังงา ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม และประมาณร้อยละ 2 นับถือศาสนาอื่น ๆ และส่วนใหญ่ประกอบอาชีพด้านประมง เป็นหลัก นอกจาก นี้ยังมีการประกอบอาชีพ เช่น ทำสวนยางพารา สวนมะพร้าว อาชีพรับราชการ การค้าขายและรับจ้าง  
          และด้วยพื้นที่เป็นแผ่นดินอยู่น้อยนิดนี้ ชาว เกาะปันหยี ใช้เป็นที่ตั้งของศูนย์กลางหมู่บ้านและศาสนา ส่วนบ้านเรือน ร้านค้า และโรงเรียนตั้งอยู่ในน้ำ เดิมทีมีทางเดินเชื่อมถึงกันด้วยสะพานไม้ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสะพานปูนในปัจจุบัน เวลาน้ำขึ้น "หมู่บ้านปันหยี" จึงแลดูเหมือนหมู่บ้านลอยน้ำ แต่พอน้ำลงจะเห็นว่าบ้านนับร้อยหลังนั้น ตั้งอยู่บนเสาที่ปักในเลนมาตั้งแต่อดีต
 



          แปลกไหม? หากเด็ก ๆ บน เกาะปันหยี ไม่เคยเล่นดิน ไม่รู้จักไม้กวาด เพราะที่ เกาะปันหยีไม่มีฝุ่นไม่มีชายหาดและทรายที่สวยงาม แต่ที่ เกาะปันหยี มีแหล่งชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงามไม่แพ้ที่ไหน ๆ อีกทั้งวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามของผู้คนในสังคม เกาะปันหยี ยังเป็นภูมิคุ้มกันให้ลูกหลานปลอดจากอบายมุข โดยบน เกาะปันหยี ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ซึ่งไม่ควรที่จะมีใครนำเข้าไปด้วย และถึงแม้จะอยู่ไกลจากฝั่ง แต่ชาวปันหยีก็มีไฟฟ้าใช้เป็นของตัวเอง
 



            อย่างไรก็ตาม นอกจากไปสัมผัสกับวิถีชีวิตของ หมู่บ้านเกาะปันหยี บ้านกลางน้ำของชุมชนมุสลิม ที่ถูกสร้างอยู่กลางทะเลโดยไม่มีพื้นดินมานานกว่า 200 ปี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก แวะมาเยี่ยมชมตลอดปีแล้ว ใกล้ ๆ กันยังมีสถานที่ท่องเที่ยวให้ได้ไปชมกัน เช่น ภูเขาเขียน ซึ่งมีภาพเขียนโบราณเป็นรูปคนและสัตว์ต่าง ๆ เช่น ลิง ปลาโลมา จระเข้ ฯลฯ อยู่ภายในถ้ำ เชื่อกันว่าเป็นภาพเขียนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ก่อนถึงตัวเกาะปันหยีประมาณ 400 เมตร อยู่บริเวณภูเขา ชาวบ้านเลยเรียกกันว่า "เขาเขียน" และ ถ้ำทะลุ มีเป็นลักษณะคล้ายเกาะตั้งอยู่ในทะเล มีช่องว่างระหว่างกลางเรียกว่า ถ้ำทะลุ นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือซีแคนนู ชมบริเวณโดยรอบได้





      ที่มา: http://travel.kapook.com/view24220.html 






ตลาดน้ำอโยธยาตลาดน้ำแห่งใหม่ในอยุธยา




          ตลาดน้ำหมู่บ้านปางช้างอโยธยา หรือที่เรียกสั้นๆว่า “ตลาดน้ำอโยธย” เป็นตลาดขายสินค้าล้อมรอบไปด้วยน้ำในรูปแบบของตลาดน้ำ ภายในตลาดน้ำอโยธยามีร้านค้าหลากหลาย อาทิ ร้านขายอาหารคาว หวาน อาหารทะเล เรือขายอาหาร ร้านขายสินค้า OTOP รวมทั้งร้านนวดเพื่อสุขภาพ เป็นต้น

         ตลาดน้ำอโยธยา ตั้งอยู่ไม่ห่างจากเจดีย์วัดสามปลื้ม(เจดีย์กลางถนน) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หากท่านขับรถมาจากถนนสายเอเชีย เมื่อถึงเจดีย์วัดสามปลื้มให้ขับรถวนรอบวงเวียนเพื่อเลี้ยวขวาไปตามทางอีกประมาณ 600 เมตรก็จะถึงทางเข้าอยู่ทางขวามือ โดยทางเข้าจะมีป้ายบอกว่า ตลาดน้ำหมู่บ้านปางช้างอโยธยา






           กำแพงอโยธยา สัญลักษณ์ของตลาดน้ำอโยธยา มาที่นี่ต้องถ่ายรูปคู่กับกำแพงนี้

ภายในตลาดน้ำอโยธยา จะประกอบด้วยร้านค้าหลากหลาย โดยทางตลาดทำการแบ่งเป็นโซน และแต่ละโซนก็ทำการตั้งชื่อตามอำเภอต่างๆของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เช่น อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ เป็นต้น





      สิ่งที่น่าสนใจในตลาดน้ำอโยธยา

การแสดงแสงสีเสียง ที่ตลาดน้ำอโยธยาจะมีการแสดงให้ชม โดยจะแบ่งเป็นรอบการแสดง วันจันทร์-ศุกร์ มี 3 รอบในเวลา 12:00 น. 17:00 น. และ 19:00 น. ส่วนในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ มีการแสดง 4 รอบ ในเวลา 11:00 น. 12:00 น. 17:00 น. และ 19:00 น.





ล่องเรือชมบรรยากาศรอบๆตลาดน้ำอโยธยา สำหรับท่านที่ต้องการชมบรรยากาศรอบๆตลาดน้ำ ก็จะมีเรือไว้บริการ โดยเรือจะล่องไปเรื่อยๆ รอบๆตลาดน้ำ ท่านสามารถชมทิวทัศน์ของตลาดน้ำได้ ในมุมที่ต่างออกไป
การล่องเรือจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที ส่วนค่าตั๋ว สำหรับผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาทเท่านั้นเอง



     



ที่มา:http://www.ayutthaya-tour.com/%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%98%E0%B8%A2%E0%B8%B2/